เกี่ยวกับเรา

สำหรับเพื่อนร่วมงานในสาขาอาชีพแพทย์และคนไข้แล้ว อาจารย์วรุณ เลาหประสิทธิ์  เป็นแพทย์ผ่าตัดสมองผู้เชี่ยวชาญที่ทำการรักษาที่ประสบความสำเร็จในเมืองเบลล์วิวล์ รัฐวอชิงตัน ประเทศ สหรัฐอเมริกา และสำหรับครอบครัวของท่านและคริสตจักรท้องถิ่นที่ท่านดูแลอยู่ ท่านและภรรยาคืออาจารย์ดา เป็นที่รู้จักในนามของ พาสเตอร์เลา หรือ ศิษยาภิบาล เลา (คนอเมริกันมักเรียกชื่อตามนามสกุล) สำหรับคริสเตียนหลายคนทั่วโลก อาจารย์วรุณเป็นพ่อฝ่ายวิญญาณ ผู้ที่นำไฟของพระเจ้า ซึ่งเป็นฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคน ไปให้คนมากมายได้รู้จักและรับการสัมผัส

ในปี 1953 อาจารย์วรุณได้เกิดในจังหวัดกรุงเทพ ประเทศไทย โดยเป็นบุตรคนที่ห้าในบรรดาพี่น้องหกคน ท่านไม่ได้รู้จักพระเจ้าในขณะที่ท่านเจริญเติบโตขึ้น และไม่เคยอ่านพระคัมภีร์หรือได้เคยไปโบสถ์คริสเตียน เมื่อท่านอายุได้ 6 ปี คุณพ่อของท่านได้นำท่านไปสมัครเข้าเรียนในโรงเรียนคาทอลิคที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง คือ โรงเรียนอัสสัมชัญ ซึ่งที่นั่น อาจารย์วรุณเรียนได้คะแนนดีและเป็นที่หนึ่งในชั้นเรียนในหลายครั้งหลายครา ในขณะที่เรียนในชั้นมัธยม ครอบครัวของท่านได้ย้ายบ้านไปยังซอยสวัสดี ถนนสุขุมวิท 31 กรุงเทพ เป็นที่ซึ่งอาจารย์วรุณได้พบกับอาจารย์ดาเป็นครั้งแรก ท่านทั้งสองได้คบกันเป็นแฟนตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา แต่ในเวลานั้นทั้งสองก็ยังไม่ได้รู้จักกับพระเจ้า

ตลอดระยะเวลาในการศึกษาในโรงเรียน อาจารย์วรุณได้สนุกสนานกับการเล่นกีฬาและดนตรี ท่านได้ผ่านในระดับขั้นสายดำขั้นที่สามของกีฬาเทควอนโดและเป็นผู้รักษาประตูทีมฟุตบอลของโรงเรียน ท่านได้เรียนตีกลองชุดและเล่นในวงดนตรีร็อคกับเพื่อนๆในชั้นมัธยม เป็นเวลาหลายปี เมื่อท่านอายุได้ 16 ปี อาจารย์วรุณได้สนใจในเรื่องฝ่ายวิญญาณและการประกอบพิธีกรรมต่างๆทางศาสนาพุทธและเกี่ยวกับ เวทย์มนตร์คาถาต่างๆ ท่านได้ไปยังวัดต่างๆ ทำบุญตักบาตร ถวายอาหาร และใช้เวลาในการนั่งสมาธิ สะสมพระเครื่องมากมาย และร่ายเวทย์มนตร์คาถาต่างๆเพื่อที่จะมีฤทธิ์เหนือธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ากีฬา ดนตรี กิจกรรมฝ่ายวิญญาณ เวทย์มนตร์คาถาต่างๆ เหล่านี้ไม่ได้ให้ความสุข ชื่นชมยินดี และความอิ่มเอิบใจที่แท้จริงในหัวใจของอาจารย์วรุณ

 หลังจากเรียนจบชั้นมัธยมในปี 1972 อาจารย์วรุณได้ผ่านการสอบเอ็นทรานส์เข้าเรียนในคณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นโรงเรียนแพทย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย การสอบในครั้งนี้มีการแข่งขันกันอย่างมากโดยคัดเลือกนักเรียนเพียง 100 คนจากนักเรียนมัธยมที่เรียนจบ 10,000 คนที่เข้าสอบคัดเลือก เป็นเพราะด้วยความโปรดปรานที่มาจากพระเจ้า อาจารย์วรุณจบการศึกษาแพทยศาสตร์ด้วยรางวัลเกียรตินิยมอันดับหนึ่งและได้รับรางวัลเหรียญทองจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเวลานั้นอาจารย์วรุณยังคงทำกิจกรรมหลายอย่าง สอนและฝึกหัดเทควันโด เล่นกลองในวงดนตรี และยังคงคบกับอาจารย์ดาซึ่งเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ในคณะบัญชี

 

 อาจารย์วรุณเริ่มเป็นแพทย์ฝึกหัดที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใน ปี 1979 และใน ปี 1980 อาจารย์วรุณก็ได้แต่งงานกับอาจารย์ดา และเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่เมืองลอสแองเจลลิส และซีแอทเทิล จนถึงขณะนั้น ชีวิตของอาจารย์วรุณยังคงว่างเปล่า และความสัมพันธ์ที่มีกับอาจารย์ดาก็ไม่ค่อยจะดี ในการเดินทางครั้งนั้น อาจารย์วรุณและอาจารย์ดาได้ยินเรื่องข่าวประเสริฐของพระเจ้าเป็นครั้งแรก ด้วยความอยากรู้และหิวกระหายในเรื่องฝ่ายวิญญาณที่มีมากขึ้น เมื่อเดินทางกลับมายังกรุงเทพ อาจารย์วรุณและอาจารย์ดาได้เข้าร่วมในกลุ่มศึกษาพระคัมภีร์เล็กๆที่มาพบกันในทุกสัปดาห์ และในที่สุดอาจารย์วรุณและอาจารย์ดาได้รู้จักและต้อนรับพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอดและท่านทั้งสองได้บังเกิดใหม่ฝ่ายวิญญาณ ท่านทั้งสองได้มอบถวายชีวิตรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้า อาจารย์วรุณเริ่มเป็นพยานด้วยความกระตือรือร้นกับคนไข้และเพื่อนร่วมงานหลายคนในขณะที่ฝึกอบรมเป็นแพทย์ประจำบ้าน

ในปี 1982 อาจารย์วรุณจบการฝึกอบรมทางด้านการผ่าตัดสมองในกรุงเทพ และได้ย้ายไปยังจังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดรอบนอกที่อยู่ทางภาคตะวันออกของประเทศไทย ที่ในจังหวัดนี้อาจารย์วรุณได้รับมอบหมายให้เป็นแพทย์ผ่าตัดสมองในโรงพยาบาลของรัฐบาล ในขณะนั้นอาจารย์วรุณและอาจารย์ดาก็ยังเป็นคริสเตียนใหม่ แต่ท่านทั้งสองมีความกระตือรือร้นที่จะเติบโตในฝ่ายวิญญาณและเรียนรู้เกี่ยวกับองค์พระผู้เป็นเจ้าให้มากขึ้น ท่านทั้งสองได้ไปยังคริสตจักรในเครือแบ๊บติสท์ที่นำโดยมิชชันนารีสามีภรรยาคู่หนึ่งชื่อ อาจารย์แดน คอป และ แฟน คอป ที่มาจากรัฐเคนตั๊กกี้ สหรัฐอเมริกา หนึ่งปีต่อมา อาจารย์วรุณและอาจารย์ดาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครองในคริสตจักรนั้นและได้ช่วยครอบครัวคอปในการประกาศข่าวประเสริฐและสร้างคริสตจักรให้เติบโตขึ้น ในระหว่างนั้นอาจารย์วรุณและอาจารย์ดาได้รับการฝึกฝนอบรมพระคัมภีร์และการดูแลฝ่ายจิตวิญญาณ พระเจ้าได้จัดเตรียมท่านทั้งสองสำหรับงานยิ่งใหญ่ที่พระองค์ได้ทรงวางแผนไว้

ในปี 1985 อาจารย์วรุณและอาจารย์ดาและบุตรสาวคนแรก ได้ย้ายไปยังเมืองซีแอทเทิลในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ซึ่งอาจารย์วรุณได้รับเลือกให้เข้าอบรมในโครงการอบรมแพทย์ประจำบ้านที่ มหาวิทยาลัย University of Washington ครอบครัวของอาจารย์วรุณได้เข้าร่วมกับคริสตจักรที่เต็มล้นด้วยพระวิญญาณในเมืองซีแอทเทิล ในขณะที่อาจารย์วรุณทำงานเป็นนายแพทย์ประจำบ้านในโครงการฝึกอบรมของมหาวิทยาลัยเป็นเวลา 8 ปี

อาจารย์วรุณขอบคุณพระเจ้า สำหรับโอกาสที่ได้รับการฝึกอบรมในโครงการที่มีเกียรติในประเทศสหรัฐอเมริกา และสิ่งที่เคยฝันไว้ว่าวันหนึ่งอาจารย์จะได้เป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยที่ทำงานเกี่ยวกับการวิจัย และการผ่าตัดระบบประสาท อย่างไรก็ตาม พระเจ้ามีพระประสงค์ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นในการนำครอบครัวของอาจารย์มายังประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 1987 พระเจ้าได้ทรงตรัสกับอาจารย์วรุณทุกคืนเมื่อยามหัวถึงหมอน เรียกให้อาจารย์วรุณดูแลคนของพระเจ้าในเมืองนั้น หลังจากการได้ยินการทรงเรียกนั้นอย่างชัดเจนมาเป็นเวลา 1 เดือน อาจารย์วรุณตอบตกลงกับพระเจ้า ท่านเริ่มทำการประกาศกับคนไทยอื่นๆในเมืองซีแอทเทิล บางครั้งท่านก็เข้าร่วมงานปาร์ตี้ของคนไทยเพื่อที่จะได้พบปะผู้คนเพื่อประกาศข่าวประเสริฐ แม้ว่าตารางเวลาการฝึกอบรมจะเข้มงวดมาก อาจารย์วรุณและอาจารย์ดายังคงหาเวลาเพื่อติดตามเยี่ยมเยียนคนต่างๆมากมาย บางครั้งก็ขับรถเป็นเวลา 45 นาทีเพื่อไปสอนพระคัมภีร์กับคนที่ยินดีที่จะใช้เวลาด้วย
ในเดือนมกราคม ปี 1988 อาจารย์วรุณและอาจารย์ดาเริ่มต้นเปิดสถานนมัสการรอบเช้าวันอาทิตย์ในบ้านของท่านเองในชั้นใต้ดิน คริสตจักรเล็กๆนี้ก็เริ่มเจริญเติบโตขึ้นเพราะพระเจ้าได้ส่งคนมากมายเข้ามาร่วมสามัคคีธรรมกันยังที่แห่งนี้ ผู้ที่มาร่วมหลายคนมีพื้นฐานจากการที่ไม่ได้เป็นคริสเตียนมาก่อน และเป็นนักเรียนและคนทำงานที่ยังเป็นหนุ่มสาว คริสตจักรได้ย้ายจากชั้นใต้ดินของบ้านอาจารย์วรุณและอาจารย์ดาไปยังมหาวิทยาลัย Seattle Pacific University ไปยังโรงแรม และต่อจากนั้น ไปยังอาคารสำนักงานในย่านธุรกิจของเมืองซีแอทเทิล และสุดท้ายได้ย้ายไปยังอาคารของคริสตจักรเองในเมืองเมอร์เซอร์ ไอร์แลนด์ ซึ่งอยู่ในจุดศูนย์กลางของอาณาบริเวณเมืองซีแอทเทิล ในขณะที่อาจารย์วรุณและอาจารย์ดาได้รับใช้พระเจ้าและดูแลคนของพระองค์ ในช่วงเวลาหลายปีนั้น พระเจ้าก็ได้ค่อยๆสอนท่านทั้งสองในหลายๆเรื่อง

ในปี 1995 อาจารย์วรุณและอาจารย์ดาได้รู้สึกว่าท่านทั้งสองได้มาถึงขีดสุดความสามารถที่ท่านจะทำได้ในพันธกิจการรับใช้และความเติบโตฝ่ายวิญญาณ พระเจ้าได้ทรงกระตุ้นเตือนให้อาจารย์วรุณแสวงหาในความเข้าใจที่ลึกมากขึ้นเกี่ยวกับการเจิมและการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในขณะนั้น พันธกิจของอาจารย์วรุณเกี่ยวข้องกับการสร้างสาวก โครงสร้างของกลุ่มสามัคคีธรรม การตั้งคริสตจักร แต่เดี๋ยวนี้ พระเจ้าต้องการที่จะเพิ่มเติมส่วนที่ขาดหายไป คือเรื่องเกี่ยวกับไฟของพระเจ้าที่จะชำระและให้กำลังฤทธิ์เดชแก่คริสตจักรที่จะทำตามการทรงเรียกได้ อาจารย์วรุณตอบสนองการทรงนำของพระเจ้าโดยการเข้าร่วมงานฟื้นฟูในเมืองอื่นๆและศึกษาเกี่ยวกับเรื่องความเชื่อ ผีร้ายและวิญญาณชั่ว ไฟของพระเจ้า และการเดินในพระวิญญาณ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออาจารย์วรุณและอาจารย์ดามีประสบการณ์ด้วยตนเองในการถูกแตะโดยไฟของพระเจ้าในหลายครั้งและในแต่ละครั้งชีวิตส่วนตัวและงานรับใช้ของท่านก็เปลี่ยนไปอย่างเหนือธรรมชาติ

ในปี 2003 อาจารย์วรุณเริ่มใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการอัดเสียงระบบดิจิตอลเพื่อผลิตและแจกจ่ายซีดีคำสอน และทำให้การสอนสามารถหาได้โดยการใช้อินเตอร์เน็ต สื่อการสอนเหล่านี้ไม่มีการคิดราคาใดๆ และหลายคนก็ได้ทำการก๊อปปี้หรือทำซ้ำเพื่อแจกจ่ายให้กับเพื่อนฝูงและญาติมิตร โดยทางนี้เรื่องราวข่าวประเสริฐและไฟของพระเจ้าสามารถเผยแพร่ไปได้ทั่ว อย่างรวดเร็ว และเมื่อเรื่องราวคำพยานที่เล่าเกี่ยวกับพระเจ้าทำงานผ่านคำสอนเหล่านี้เพื่อปลดปล่อยคนมากมายจากพันธนาการฝ่ายวิญญาณ กลับมายังอาจารย์วรุณ ท่านก็เริ่มได้รับเชิญให้ไปเยี่ยมคริสเตียนในประเทศต่างๆ ปัจจุบันนี้ อาจารย์วรุณและอาจารย์ดายังคงถามพระเจ้าว่าท่านทั้งสองจะเป็นพระพรให้กับคริสเตียนต่างๆทั่วโลกได้อย่างไร